
จะกินทำไมคุณไม่ได้ชัก!
หลายปีก่อน ตรวจคนไข้ที่พระศรีฯ
จำได้ว่าเป็นเคสผู้ป่วยโรคอ
มาด้วยสภาพอาการกำเริบหนัก หงุดหงิด ก้าวร้าว พูดมาก ไม่นอน
เคสนี้เดิมอาการสงบมาหลายปี
.
.
แล้วอะไรเป็นสาเหตุให้โรคกำ
ซักไปซักมา ก็พบว่า มียาหนึ่งชนิดที่ผู้ป่วยขาด
และโชคร้ายที่ยาตัวนั้นเป็น
ยานั้น ชื่อ เดพากิ้น [Depakine : ชื่อสามัญ Valproic Acid]
.
.
เนื่องจากผู้ป่วยในอดีตร่วม
การหยุดกินยาเองนี่แทบจะเป็
ตอนแรกเลยคิดว่า "หรือจะเป็นเพราะไม่มียาที่
หรือ ยาในสต๊อกหมดนะ"
แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ทำไมทางนั้น ไม่รีบส่งตัวผู้ป่วยกลับมา?
.
.
เมื่อคุยไปคุยมา ญาติก็เฉลยคำตอบ (ที่น่าสนใจ) ออกมาว่า
"ก็คุณหมอน้อยที่รพ.ใกล้บ้า
เจ้าบฺ่ได้เป็นโรคลมชัก สิกินยากันชักไปเฮ็ดหยัง เดี๋ยวตับก็มุ่นดอก!!" (คงไม่ต้องแปลเนาะ)
แล้วก็หยุดจ่ายยา Depakine ตั้งแต่จุดนั้นเป็นต้นมา!!
.
.
.
ที่สุด เคสนั้นก็เลยได้นอนพักในรพ.
และได้รับการบำบัดจนอาการดี
โดยมีใบส่งตัวกลับที่เขียนโ
"ยาDepakine เป็นยาที่มีข้อบ่งใช้หลายข้
หลายคนมักจะรู้จักในนามของ "ยากันชัก"
นั่นเป็นความจริงที่ยังไม่ถ
ความจริงทั้งหมด คือ...
>>>ข้อบ่งใช้ของยา Valproic Acid<<<
1. โรคลมชัก [Anticonvulsant]
(ชักชนิด Absence, Generalized (grand mal) และ Complex partial)
2. ความเจ็บปวดจากพยาธิสภาพของ
3. โรคอารมณ์แปรปรวน [Bipolar disorder โดยเฉพาะ Manic episodes]
4. ปวดศีรษะไมเกรน [Migraine] (ใช้ป้องกัน)
>>นอกจากนั้น ยังมีการนำไปใช้ในเคสเหล่าน
5. สมองเสื่อมที่มีปัญหาพฤติกร
6. ความผิดปกติของบุคลิกภาพ [Personalitiy Disorder ชนิดBorderline
and Antisocial]
ดังนั้น ผู้ป่วยรายนี้
***ไม่ควรหยุดยาDepakine ครับ***